หากพูดถึงจิตแพทย์นั้นเราก็คงจะคิดว่า จิตแพทย์ไม่ได้มีอะไรมากแค่คอยดูแลคนที่มีปัญหาทางจิตเท่านั้น แต่หารู้ไม่ว่ากว่าจะมาเป็นจิตแพทย์นั้นจะต้องเรียนตำรับตำราอย่างเคร่งครัด และยังต้องเป็นคนที่ฝึกจิตได้ดีอีกต่างหาก เพราะถ้าจิตแพทย์ไม่ฝึกจิตให้สามารถแยกแยะคนที่มีอาการทางจิตได้ก็ถือได้ว่าเป็นจิตแพทย์ไม่เต็มตัว อีกทั้งจะไม่สามารถใช้วิชาชีพที่เรียนมาให้เป็นอาชีพได้ จิตแพทย์ไม่ใช้แค่จะใช้ความสามารถในการแยกแยะคนไข้ที่มีอาการป่วยทางจิตได้เพียงอย่างเดียว แต่จะต้องคอยดูแลรักษาผู้ป่วยที่มีอาการทางจิตให้หายขาดและ ใช้ชีวิตได้ตามปกติและช่วยเหลือตัวเองได้อีกด้วย ทั้งนี้จิตแพทย์ยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตรวจสอบคนร้ายที่ก่อเหตุในคดีต่างๆโดนเฉพาะคดีแปลกๆ เพื่อที่จะได้ปิดคดีได้เร็วขึ้น เช่น จิตแพทย์จะต้องหาสาเหตุการก่อเหตุของคนร้ายต่างๆไม่ว่าจะเป็น แรงจูงใจ สติปัญญารวมไปถึงภาวะทางจิต ทั้งนี้เพื่อเป็นการลงโทษผู้กระทำผิดตามเหตุผลและเจตนาที่ทำ เคยมีเหตุดังกล่าวที่เคยเกิดขึ้นแล้วแต่ทางตำรวจไม่สามารถซักถามอะไรผู้ร้ายได้เลย จึงต้องมีจิตแพทย์เข้ามามีส่วนสำคัญ การที่จะเป็นจิตแพทย์ได้นั้นต้องมีความเป็นระเบียบและรอบครอบมากๆ เพราะจะต้องคอยสังเกต และคอยสอบถามกับตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ เช่น กรณีที่คนร้ายถูกจับได้และจะต้องอ้างบอกว่าตัวเองไม่ได้ตั้งใจหรือมีเจตนาที่จะทำร้ายใคร เพียงตัวเขาเองมีปัญหาทางจิตทำอะไรไปโดนที่ไม่ได้เจตนา การให้ปากคำเช่นนี้จะช่วยลดข้อหาได้มาก ต่างกับคนร้ายที่มีเจตนาทำร้ายผู้อื่น ดังนั้นเมื่อคนร้ายอ้างว่าตัวเองมีปัญหาทางจิตจึงต้องเป็นหน้าที่ของจิตแพทย์ที่จะต้อง คอยหาหลักฐานและเฝ้าดูพฤติกรรมคนร้ายว่าเป็น คนมีปัญหาทางจิตจริงรึป่าว เพื่อที่ทางตำรวจจะได้ดำเนินคดีได้ถูกต้อง ถือได้ว่าจิตแพทย์มีบทบาทสำคัญกับสังคมเป็นอย่างมาก
